ผู้ว่าการ กกท. เจาะจง ตอนนี้เรื่องหลักลิขสิทธิ์บอลโลก 2022 ในไทย คือ การตกลงราคาแล้วก็สัญญากับทางเอเย่นต์ของฟีฟ่าเท่านั้น
วันที่ 3 เดือนพฤศจิกายน 65 ความคืบหน้าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 ในไทย “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ยันเป็นหน้าที่ของตัวเอง ที่จะต้องทำให้คนไทยได้ดูฟุตบอลโลก 2022 ให้ได้ ส่วนงบประมาณในการซื้อลิขสิทธิ์ จะเป็นของ กสทช. หน่วยงานเดียว ซึ่งทาง กสทช. รอให้ กกท. ทำเนื้อหาในวงเงิน 1,600 ล้านบาท กลับมา ขณะที่ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. เจาะจง ตอนนี้เรื่องสำคัญๆที่เหลือ คือการตกลงราคาแล้วก็สัญญากับทางเอเย่นต์ของฟีฟ่าเท่านั้น ซึ่งแม้ว่าเวลาจะกระชั้นเข้ามาก็จริง แต่ราคาจะต้องเป็นกลางกับไทยเราด้วย ซึ่งเราก็จะพิจารณาดูสัญญา แล้วก็ราคาลิขสิทธิ์ ที่ยุติธรรมกับประเทศไทยให้มากที่สุด
เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี
กล่าวถึงกรณี กระแสข่าวสารที่รัฐบาลจะให้ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ แล้วก็กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เป็นผู้ซื้อลิขสิทธิ์ เพื่อให้คนไทยได้ดูฟุตบอลโลก 2022 ระหว่างวันที่ 20 พฤศจิกายน-18 ธันวาคม 2565 จากประเทศกาตาร์ ว่า เป็นหน้าที่ของตัวเอง ที่จะต้องทำให้ได้ ซึ่งก็อยากให้ดูกันทุกคน ส่วนเนื้อหาว่าจะถ่ายช่องใดนั้น ยังไม่รู้ รอให้ได้ลิขสิทธิ์ก่อน เมื่อถามคำถามว่า งบประมาณในการซื้อลิขสิทธิ์เป็นของ กสทช.หน่วยงานเดียวใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นของ กสทช. หน่วยงานเดียว แล้วก็เป็นงบที่ทำเพื่อประชาชน
ขณะที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่ไม่มีการดึงภาคเอกชนเข้ามาร่วม ว่า เรื่องนี้ตนไม่ได้เป็นคนเริ่ม หลายคนเป็นคนเริ่ม ก็เลยตอบไม่ถูก แต่ได้ดูก็ดี ซึ่งทุนในการดำเนินการคราวนี้ไม่ถึงพันล้าน ตามที่เป็นข่าว ก่อนหน้านี้ตนได้อธิบายในคณะรัฐมนตรี (ครม.)ไปแล้วว่า ถ้ายิ่งดำเนินการช้าก็จะยิ่งถูก เพียงแค่แต่เราอาจจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ แล้วก็อาจทำให้เกิดการขายหน้าขายตา แล้วก็ตอนนี้ไม่ถือว่า ช้าเกินไป ตอนนี้ราคาเริ่มลงแล้ว ถ้าทำสัญญาช้า ก็จะยิ่งถูก ด้วยเหตุว่าเขาก็กลัวทางเราไม่เอา แล้วก็เรื่องนี้นับว่าเป็นของขวัญของรัฐบาล
ส่วน นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการกสทช. เปิดเปิดเผยว่า ที่ประชุมบอร์ดกสทช. เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2565 ได้มีวาระพิจารณากรณีที่ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้ทำหนังสือขอเงินสนับสนุนส่งเสริมจาก กสทช. เพื่อนำไปซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 มาให้คนไทยได้รับชม อย่างไรก็ตามที่ประชุมบอร์ดได้แจ้งกลับไปให้ กกท.จัดทำรายละเอียดงบที่ขอมาจำนวน 1,600 ล้านบาทว่า เป็นค่าใช้จ่ายส่วนใดบ้าง แล้วก็ให้ส่งกลับมาให้บอร์ด กสทช. พิจารณาอีกรอบ
“ขณะนี้เรากำลังรอหนังสือตอบกลับจาก กกท. ด้วยเหตุว่าการขอเงินสนับสนุนจำนวน 1,600 ล้านบาทนั้น จำเป็นต้องต้องมีข้อแจกแจงว่าเป็นเงินเพื่อนำไปใช้ส่วนใดบ้าง”
ทั้งนี้ในการแข่งขันฟุตบอลโลกเมื่อ 8 ปีก่อน ทาง กสทช.ได้เคยให้เงินสนับสนุน เป็นวงเงินประมาณ 400 ล้านบาท แต่คราวนั้นเป็นการสนับสนุนบางส่วนไม่ใช่ทั้งหมดเสมือนดังเช่นคราวนี้ โดยพื้นฐานลิขสิทธิ์จะครอบคลุมการออกอากาศผ่านระบบโทรทัศน์ภาคพื้นดิน ดาวเทียม แล้วก็เคเบิล
ด้าน ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. เปิดเปิดเผยว่า
ตอนนี้คณะทำงานฝ่ายต่างๆกำลังเร่งมือในการทำงานอย่างตลอด เพื่อที่จะดำเนินการคว้าลิขสิทธิ์ให้สำเร็จลุล่วงก่อนการแข่งขันนัดเปิดสนาม ส่วนการที่ สปป.ลาว แล้วก็ เมียนมา คือ 2 ชาติอาเซียนปัจจุบัน ที่เพิ่งดำเนินการซื้อลิขสิทธิ์ เสร็จ กระทั่งทำให้ไทยกลายเป็นชาติเดียวในอาเซียนเวลานี้ ที่ยังคงไม่สามารถเจรจาซื้อลิขสิทธิ์ได้เสร็จ เรื่องนี้เราไม่ได้กังวล แต่ขอยืนยันว่าเราจะดำเนินการอย่างเต็มที่ เพื่อบรรลุการเจรจาให้ได้อย่างเร็วที่สุดภายในอาทิตย์นี้ ซึ่งแพ็กเกจที่เราจะเลือก คือ ถ่ายทอดสดครบทั้งยัง 64 นัด ตั้งแต่นัดเปิดสนามไปถึงนัดชิงแชมป์ ซึ่งนี่เป็นแพ็กเกจเดียวที่เราได้รับการเสนอมา
“ส่วนแหล่งเงินที่เป็นงบจาก กสทช. ซึ่งล่าสุด กกท.ก็ได้ทำรายละเอียดแจกแจงกลับไปยังกสทช. แล้วว่า งบที่จะนำไปใช้ ต้องนำไปดำเนินการในด้านใดบ้าง ถึงตรงนี้ก็เหลือเพียงเข้าชี้แจงอีกรอบ ซึ่งส่วนหลัก ๆ ที่เหลือคือเรื่องการตกลงราคาและสัญญากับทางเอเย่นต์ของฟีฟ่าเท่านั้น ซึ่งถึงแม้เวลาจะกระชั้นเข้ามาก็จริง แต่ต้องเป็นธรรมกับเราด้วย ซึ่งเราก็จะพิจารณาดูสัญญาและราคาลิขสิทธิ์ที่ยุติธรรมกับประเทศไทยให้มากที่สุด” ดร.ก้องศักดิ์ กล่าว