Thursday, 30 March 2023

“BMW i Vision Dee” ต้นแบบซีรี่ย์ 3 ขุมพลังไฟฟ้าพร้อมตัวถังเปลี่ยนสีได้ถึง 32 สี

BMW ซีรี่ย์3 เผยโฉมรถยนต์ต้นแบบ BMW i Vision Dee หนแรกในโลกที่งาน Consumer Electronics Show (CES) 2023 ที่เมืองลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยคาดว่า เป็นเวอร์ชันต้นแบบของ “ซีรี่ย์ 3” เจเนอเรชันถัดไป ที่มาพร้อม ขุมพลังไฟฟ้าล้วน 100%

BMW i Vision Dee เป็นรถยนต์ซีดาน ขนาดกลาง (Mid-size) ที่มีรูปลักษณ์อันล้ำสมัย โดยที่ Dee ย่อมาจากคำว่า “Digital Emotional Experience” ที่เน้นสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างคน และรถยนต์ให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น

ชูไฮไลต์ด้วยเทคโนโลยี BMW Head-Up-Display ซึ่งสามารถแสดงข้อมูลต่าง ๆ ทอดยาวตลอด ความกว้างของกระจกบังลมหน้า แทนการใช้หน้าจอปกติ ซึ่งบีเอ็มดับเบิลยู ระบุว่าเทคโนโลยีดังกล่าว จะถูกนำไปจัดตั้ง กับรถโปรดักชัน ที่ใช้แพล็ตฟอร์ม NEUE KLASSE สำหรับวางจำหน่ายจริง ตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป

BMW
BMW ซีรี่ย์3 เทคโนโลยีแสดงข้อมูลแบบ HUD

ดังกล่าวทำงานร่วมกับ ระบบสั่งงานแบบ BMW Mixed Reality Slider ที่อาศัยเซ็นเซอร์ บนแผงคอนโซล เพื่อใช้ในการควบคุมข้อมูลต่าง ๆ ที่ปรากฏบนจอ HUD ผ่านการสัมผัสด้วยปลายนิ้ว ไม่ว่าจะ เป็นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการขับขี่, คอนเทนท์ด้านระบบสื่อสาร และก็เทคโนโลยี ความเป็นจริงเสริม หรือ Augmented Reality ฯลฯ

นอกจากนี้ คนขับขี่และผู้โดยสาร ยังสามารถสัมผัสประสบการณ์ แบบดิจิทัลของ BMW i Vision Dee ได้ตั้งแต่ก่อนขึ้นรถ ผ่านส่วนประกอบทั้งด้านกราฟิก, ไฟส่องสว่าง รวมทั้งเสียงเอฟเฟกต์ต่าง ๆ

อย่างเช่น ไฟหน้าและก็กระจังหน้าไตคู่แบบปิดทึบ ถูกพัฒนาให้ มีลักษณะเป็น “Phygital” (เกิดขึ้นจากการรวมกันของคำว่า Physical และก็ Digital) ที่มีลักษณะคล้ายหน้าจอ สำหรับตอบโต้กับมนุษย์ หรือแสดงอารมณ์ในขณะนั้นได้

ตัวถังข้างนอกของ BMW i Vision Dee ยังสามารถเปลี่ยนสีได้เองโดยอัตโนมัติ โดยอาศัยเทคโนโลยี E Ink คล้ายกับที่พบใน BMW iX Flow ซึ่งเคยเปิดตัวในงาน CES 2022 คราวก่อน แต่คราวนี้บีเอ็มดับเบิลยู ได้เพิ่มระดับความสามารถให้ปรับเปลี่ยน สีตัวถังได้ถึง 32 สี

บนพื้นที่ที่ถูกแบ่ง แยกออกเป็นทั้งหมด 240 ส่วน (จากเดิมที่มีเฉพาะสีดำและสีขาว ที่สามารถผสมกัน เปลี่ยนเป็นสีเทาได้อีกหลายเฉด) ส่งผลให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกเปลี่ยนสีได้ ตามใจชอบในเวลาแค่ชั่วอึดใจเท่านั้น

Consumer Electronics Show (CES) 2023
ด้านในห้องโดยสารของรถยนต์คันนี้

ยังถูกออกแบบให้ลดการใช้ วัสดุที่ไม่จำเป็น พร้อมกันไปกับการลด จำนวนปุ่มควบคุม รวมทั้งตัดหน้าจอแบบเดิมออกไป ซึ่งบีเอ็มดับเบิลยู กล่าวว่าจะช่วยให้คนขับขี่ สามารถสัมผัสกับประสบการณ์ ดิจิทัลได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งมาพร้อมพวงมาลัย ดีไซน์แปลกตา ที่ติดตั้งก้านแนวตั้ง บริเวณกึ่งกลางของพวงมาลัย

ก่อเกิดจุดสัมผัส ที่จะเริ่มทำงานก็ต่อเมื่อคนขับขี่ใช้ปลายนิ้ว สัมผัสเท่านั้น ทั้งนี้การออกแบบดังกล่าว ยังช่วยสนับสนุนแนวคิด “มืออยู่บนพวงมาลัย, ตาจ้องไปยังถนน” เพื่อความปลอดภัยสำหรับเพื่อการขับขี่สูงสุดนั่นเอง

งานวิศวกรรมทำขึ้นบนสถาปัตยกรรมใหม่ พร้อมแบตเตอรี่ ที่มีความหนาแน่นขึ้น 20% ชาร์จเร็วขึ้น 30% และวิ่งไกลขึ้น 30% ยิ่งไปกว่านี้ในเวอร์ชั่น M ยังมาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า ถึง 4 ลูกเพื่อรองรับ แบตเตอรี่แบบ Solid State อีกด้วย

แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่ รถยนต์ต้นแบบเท่านั้น แต่ว่ามีความเป็นไปได้สูง ที่รายละเอียดบางส่วน ที่จะประยุกต์ใช้ในรถขายจริง ตามนโยบาย NEUE KLASSE ทั้งยังกระจกหน้าต่าง แบบใหม่ จะนำมาใช้ใน i3 รุ่นต่อไป, งานวิศวกรรมที่จะเริ่ม ใช้ใน 3-Series Sedan และ iX3 โฉมใหม่ ได้มีแผนที่ จะผลิตในโรงงานใหม่ Debrecent ประเทศฮังการี ในทศวรรษนี้ (ราว ปี 2030) ตามมาด้วยในเมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนีในปีถัดไป

ทั้งนี้ มีความน่าจะเป็นสูงว่า BMW i Vision Dee จะถูกต่อยอดกลายเป็น 3 Series ขุมพลังไฟฟ้า 100% ในอนาคต ซึ่งจะถูกเปิดตัวในปี 2025 ที่จะถึงนี้

BMW ซีรี่ย์3 Consumer Electronics Show
News ข่าวรถยนต์รถใหม่เปิดตัว BMW i Vision Dee รถยนต์ต้นแบบไฟฟ้า แห่งอนาคตในงาน CES 2023

BMW เปิดตัวรถต้นแบบ BMW i Vision (BMW i Digital Emotional Interaction Concept Car (Dee)) ในงานมหกรรมรถยนต์ International Consumer Electronics Show (CES) ปี 2023 ซึ่งจัดขึ้นที่ลาสเวกัส ระหว่างวันที่ 5 – 8 มกราคม 2023

BMW i Vision Dee เปิดตัวหนแรกในโลก โดยใช้แนวคิดการปฏิสัมพันธ์ ทางอารมณ์แบบดิจิทัล BMW i คือ Digital Emotional Experience สร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ และยังชี้ให้เห็นวิสัยทัศน์ของ BMW Group ที่มุ่งมั่นการสร้างยานยนต์ไฟฟ้า แห่งอนาคต ภายใต้แนวคิด “less is more”

BMWiVisionDee Concept อีกหนึ่งสีสันของบูธ BMW ด้านในงาน CES 2023 ตัวรถได้รับการออกแบบ ในทรงซีดานกล่อง องค์ประกอบการออกแบบ ที่โดดเด่นหลายแบบของ BMW ที่ได้รับการปรับแต่ง

รวมถึงกระจังหน้ารูปไต ไฟหน้าทรงกลมคู่ รวมทั้งรอยหยักแบบ Hofmeister ล้ออัลลอยสีเขียวขนาดใหญ่ ไฟท้สยแบบ LED ดิจิตอล กระจกรอบคันขนาดใหญ่ สร้างมุมมองได้กว้างขึ้น ไร้มือจับประตูข้างนอก

Consumer Electronics Show

BMW Group เปิดตัวเทคโนโลยี E Ink หรือการเปลี่ยนโทน สีบนพื้นผิวตัวถัง โดยสามารถสร้างสี ได้มากถึง 32 สีผ่านฟิล์ม กระดาษอิเล็กทรอนิกส์ ครอบคลุมทั้งตัว รถภายนอก

ปรัชญาการออกแบบ ที่เรียบง่ายนี้ ยังคงอยู่ในห้องโดยสาร เน้นการใช้งานมินิมอล แต่จัดเต็มด้วยเทคโนโลยี BMW ได้นำระบบ Head-up Display ขั้นสูงของ BMW มาใช้ พร้อม BMW Mixed Reality Slider ซึ่งสามารถฉายเนื้อหา ให้ครอบคลุมความกว้างทั้งหมด ของกระจกบังลม

สามารถแสดงข้อมูลบนพื้นผิวที่ใหญ่ เท่าที่จะเป็นได้ กระจกบังลมหน้าจะทำหน้าที่ เป็นอินเทอร์เฟซดิจิทัลเดียว ในการตอบโต้กับทุกคนด้านในห้องโดยสาร

Adrian van Hooydonk หัวหน้าฝ่ายออกแบบของ BMW Group บอกว่า “BMW i Vision Dee แสดงให้เห็นการออกแบบดิจิทัล ที่เข้ากับชีวิตประจำวัน รวมทั้งเป็นเพื่อนร่วมทาง ที่ไว้ใจได้ พร้อมมอบประสบการณ์ ที่คุ้มค่า ทำให้มนุษย์และก็เครื่องจักรใกล้ชิดกันเพิ่มมากขึ้น